บาร์เซโลน่า ลงเล่นเกมแรกอย่างเป็นทางการไปแล้ว นี่คือครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่ไร้เงาแข้งอันดับหนึ่งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ทุกอย่างยังโอเคอยู่หรือเปล่า ?

เปิดลา ลีกา ฤดูกาลใหม่มีประเด็นให้พูดถึงเยอะเลยครับ แต่เกมแรกของ บาร์ซ่า ในยุคไร้ เลโอ เมสซี่  คือประเด็นใหญ่ที่ทุกคนจับตามองมากที่สุด

ไล่ตั้งแต่ไลน์อัพ,ผลการแข่งขัน,รูปเกม,บรรยากาศ,ปฏิกิริยาแฟนบอล,รีแอคชั่นนักเตะ เรื่อยไปจนกระทั่งบทสัมภาษณ์หลังเกม

ทุกคนอยากเห็น ตื่นเต้นที่จะได้รู้ เพราะนี่คือครั้งแรกนับแต่เมื่อปี 2004 ที่ บาร์ซ่า ปราศจาก เมสซี่ ซึ่งด้วยระยะเวลายาวนาน 17 ปี ที่ ‘el d10s’ อยู่กับทีมมา มันทำให้ผู้คนส่วนใหญ่จินตนาการไม่ออกว่า บาร์ซ่า จะเป็น บาร์ซ่า ในแบบไหน

หลังจบเกม 90 นาที ถ้าถามผม ผมว่ามันออกมาดีกว่าที่คิดไว้เยอะเชียวครับ

ในแง่ของผลการแข่งขัน บาร์ซ่า ทำได้ตามเป้า

พวกเขาเอาชนะผู้มาเยือน เรอัล โซเซียดาด คว้า 3 แต้มสำเร็จ

ตรงนี้ผมมองว่าสำคัญมาก เพราะแม้เมื่อคืนจะเป็นเกมแรก ยังเหลืออีก 111 แต้มจาก 37 เกมให้เก็บเกี่ยว แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อสโมสรอย่างหนัก ทำให้เกมแรกที่ บาร์ซ่า ลงเล่นไม่ต่างอะไรกับนัดชิงชนะเลิศ

กับ เรอัล โซเซียดาด ผมมองว่าเป็นเกมที่สำคัญมาก และพวกเขาทำสำเร็จ ชนะในเกมที่ต้องชนะ นั่นทำให้บรรยากาศเป็นไปในทิศทางบวก และที่เยี่ยมกว่านั้นคือรูปเกม

โอเคว่าเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุด ยังมีจุดบกพร่องให้แก้ไข แต่ถ้าดูที่แนวทางและวิธีการเล่นแล้ว ถือว่าน่าประทับใจ

ผมชอบที่ บาร์ซ่า ชุดนี้พยายามเคลื่อนบอลด้วยความเร็ว ซึ่งพวกเขาทำออกมาได้ไหลลื่นและแม่นยำ ทำให้เกม flow สร้างความยากลำบากให้กับ โซเซียดาดในการไล่ตามป้องกัน

ตรงส่วนนี้ผมยกเครดิตหลักๆให้ บุสเก็ตส์, เปดรี และ เดอ ยอง ที่มีบทบาทในเชิงลึกต่อการขับเคลื่อนเกมออกมาในลักษณะนี้

นอกจากนั้นแล้ว ที่ดูดีเอามากๆก็คือเกมเพรสซิ่ง เป็นเพรสซิ่งที่มีคุณภาพสูงเพรสด้วยความดุดัน รวดเร็ว ทำอย่างพร้อมเพรียง ทำให้เกมของ โซเซียดาด ต่อกันไม่ติด ทุกครั้งที่จับบอลรับรู้ได้ถึงความกดดัน ประตูขึ้นนำ 2-0 จากลูกโขกของ เบรทเวต ก็มาจากวิธีการเล่นนี้

ตัวเลขที่ออกมาตลอด 90 นาที ปรากฏว่าทีมของ โรนัลด์ คูมัน พาสบอลไปทั้งสิ้น 476 ครั้ง แย่งบอลคืนกลับมาได้ 47 ครั้ง ! ซึ่งน่าทึ่งมาก ต้องไม่ลืมว่านี่คือเกมแรก สภาพร่างกายของนักเตะยังไม่เข้าที่ แต่ทำผลงานได้ขนาดนี้ ก็ต้องปรบมือให้

ในแง่ของแท็คติก passing กับ pressing 2 ส่วนนี้ออกมายอดเยี่ยม อีกส่วนที่น่าชื่นชมก็คือเรื่องความกระหาย

นักเตะบาร์ซ่าถูกจับตามองอย่างมากว่าพวกเขาจะลงสนามด้วยปฏิกิริยาแบบใด หลังดราม่าของ เมสซี่

แน่นอนว่า เมสซี่ จากทีมไปในลักษณะนี้ทุกคนย่อมผิดหวัง และแข้งอายุน้อยบางรายอาจเสียขวัญ แต่แข้งแกนหลักบาร์ซ่า ไม่ได้สามารถแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เห็นคือความมุ่งมั่น ความพยายามที่จะเล่น ความกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าพวกเขาอยู่ได้ ต่อให้ไม่มี คิงเลโอ

นักเตะบาร์ซ่าลงไปด้วยความกระตือรือร้นตั้งแต่เสียงนกหวีดแรก ทุกคนเคลื่อนซัพพอร์ต-สอดรับกันตลอดเวลา ขยันวิ่ง ช่วยกันเล่น

ตรงนี้ ผมยกเครดิตให้ โรนัลด์ คูมัน ส่วนนึง เมื่อดูจากสถานการณ์ที่สโมสรเริ่มต้นได้เลวร้ายที่สุด (เสียนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลไป) กุนซือดัตช์ยังสามารถกระตุ้นให้นักเตะเล่นด้วยความฮึกเฮิมได้

ส่วนในสนาม ก็ต้องยกเครดิตให้นักเตะทุกคนที่ตอบสนองได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าจะพิเศษหน่อย ผมยกให้ เคราร์ด ปีเก้

ปีเก้ แสดงความเป็นผู้นำออกมาได้อย่างแข็งแกร่ง ซ้ำยังถูกที่ถูกเวลา

ในเกมเขาทำประตูแรกให้ทีม ฉลองประตูด้วยอารมณ์ความรู้สึก ทำให้แฟนๆเห็นว่าสปิริตทีมไม่ได้หายไปไหนแม้จะสูญเสีย เลโอ

นอกสนามเขาให้สัมภาษณ์ ตอกย้ำถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วยประเด็นลดค่าเหนื่อยที่เขาล่วงหน้าคนอื่นๆไปก่อน

“ผมต้องการเคลียร์ตรงนี้ว่ากัปตันทีมทุกคนมีการติดต่อกันตลอดและผมรู้ว่าพวกเขาจะทำมัน(ลดค่าเหนื่อย)ในเร็วๆนี้”

“ผมเกิดที่นี่,ผมโตที่นี่และผมอยู่ที่นี่เกือบตลอดชีวิตของผม ผมทำในสิ่งที่ผมต้องทำ”

สิ่งที่ ปีเก้ ทำนั้น เป็นการกระทำที่น่ายกย่อง ในภาวะเช่นนี้ หากคนอย่างเขายังลังเล หรือไม่แสดงความเป็นผู้นำอันเด็ดเดี่ยวออกมา บาร์ซ่า จะตกอยู่ในสถานการณ์แบบใด ? นอกจากนี้ประเด็นดราม่าของ ยอร์ดี้ อัลบา ก็พลอยถูกชี้แจงให้สาธารณชนได้เข้าใจจากคำพูดของเขาอีกด้วย

นอกจาก ปีเก้ แล้ว อีกคนนึงที่ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้ยอดเยี่ยมก็คือ เมมฟิส เดปาย

ก่อนเกมการแข่งขันหัวหอกดัตช์โพสต์ภาพมุมสูงของนครบาร์เซโลน่าที่มองเห็นวิวสนาม คัมป์ นู และตัวเมืองที่ติดทะเลเมดิเตอร์เรนี่ยน ลงใน IG ซึ่งแม้จะไม่มี caption ใดๆ แต่ก็สื่อให้เห็นถึงแพสชั่นอันเต็มเปี่ยมของเขา

พอลงเล่น เมมฟิส เล่นด้วยความมั่นใจ ไม่กลัวใครแม้เป็นเกมแรก ซึ่งการเล่นของเขามันน่าทึ่ง

เมมฟิส เก็บทำแอสซิสต์แรกสำเร็จด้วยการเปิดบอลที่แม่นยำให้ ปีเก้ โขกประตูแรก , ครีเอทจังหวะการเล่นซึ่งนำไปสู่ประตูที่ 3 ของทีม ประสานงานกับ เดอ ยอง ให้ อัลบา หลุดเดี่ยว ที่เหลือก็มีบทบาทตลอดทั้งเกม

ด้วยการที่เล่นที่สวยงาม เปี่ยมด้วยเทคนิค และเหนือความคาดหมาย เล่นเอา sport.es สื่อดังประจำแคว้นถึงกับนิยามเกมแรกของเขาว่า mago หรือ เวทมนต์ เลยทีเดียว

เดปาย ได้คะแนนความสามารถ 8 เต็ม 10 จาก sport.es ถือเป็นการเปิดตัวที่สวยงาม พร้อมให้เหตุผลไปในตัวว่า “ทำไม คูมัน ถึงอยากได้เขามาร่วมทีม ?”

เดปาย กับ ปีเก้ อาจไม่สามารถทดแทน เมสซี่ ได้ มันเป็นเรื่องที่ดีที่แฟนบาร์ซ่ายังนึกถึง เมสซี่ อยู่เสมอ นาทีที่ 10 ซึ่งเป็นเบอร์เสื้อของ ‘คิงเลโอ’ แฟนๆในคัมป์ นู พร้อมปรบมือและตะโกนชื่อ เมสซี่ เมสซี่ เมสซี่

แม้จะมีบางส่วนที่โห่ใส่บอร์ดบริหาร แต่ผลงานของนักเตะในสนามช่วยลดบรรยากาศอึมครึมไปได้มาก

แฟนๆเอนจอยไปกับ มาร์ติน เบรทเวต ที่ยิงคนเดียว 2 ประตู แถมยังทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ กลายเป็นนักเตะที่ได้คะแนนความสามารถสูงสุดจาก sport.es ที่ 9 คะแนน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเรื่องเยี่ยมที่ได้เห็น

เบรทเวต บอกว่า เขาชอบพูดในสนามมากกว่า และเมื่อคืนวันอาทิตย์คำพูดของเขาน่าประทับใจมาก ส่วนแข้งรายอื่นๆก็ถือว่าทำได้ดี

เอริก การ์เซีย,เดรสต์,เนโต้,กริซมันน์,เปดรี,เดอ ยอง รวมถึงแข้งสำรองอย่าง เซร์จี้ โรเบร์โต้ มีเกมที่ดีของตัวเอง อาจยังมีข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไขกันต่อไป แต่หากมองว่านี่คือการออกสตาร์ทเกมแรกหลังสิ้นสุดยุคของนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาลของสโมสรอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ แล้วล่ะก็

มันก็น่าประทับใจมากแล้ว ที่เหลือก็แค่ค่อยๆก้าวเดินไปด้วยความมุ่งมั่น

คลิกเลย >>> UFABETWINS
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล